By เจมส์ บลัวร์ส
บิชอปโรลันโด อัลวาเรซ จากสังฆมณฑลนิการากัวทางเหนือของมาตากัลปา ได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ปิดสถานีวิทยุคาทอลิก XNUMX แห่ง จากนั้นตำรวจก็ย้ายเข้ามา
พวกเขาหยุดเขาและนักบวชคาทอลิกหกคนไม่ให้ออกจากบ้านและไปที่มหาวิหารใกล้เคียงเพื่อเฉลิมฉลองมิสซา
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งแนวกั้นป้องกันมิให้ผู้คนเข้ามาหรือไปโดยเสรี
บิชอปอัลวาเรซและคนอื่นๆ อีก 12 คนติดอยู่ในบ้านของเขาตั้งแต่วันพฤหัสบดี
“พวกเขาบอกเราว่าเราถูกกักบริเวณในบ้าน” บิชอป อัลวาเรซ กล่าวระหว่างพิธีมิสซาเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเขาออกอากาศทางโซเชียลเน็ตเวิร์กจากบ้านของเขาในมาตากัลปา
ข้อหายุยงให้เกิดความรุนแรง
ทางการนิการากัว ซึ่งรับคำสั่งจากประธานาธิบดี แดเนียล ออร์เตกา และรองประธานาธิบดีโรซาริโอ มูริลโล ภริยาของเขา มีความอดทนเพียงเล็กน้อยต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์หรือความขัดแย้งใดๆ ผู้นำฝ่ายค้านมากกว่า 150 คนอยู่ภายใต้การล็อคและกุญแจ
ตำรวจกล่าวหาว่าบิชอป อัลวาเรซ ใช้สื่อและโซเชียลเน็ตเวิร์กเพื่อยุยงให้เกิดความรุนแรงและทำให้ประเทศไม่มั่นคง และกล่าวว่าพวกเขากำลังเตรียมข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ
เขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดการล่วงละเมิดนี้ โดยขอให้เคารพเสรีภาพทางศาสนา
บิชอปวัย 55 ปีถูกขัดขวางไม่ให้ไปอาสนวิหารในวันพฤหัสบดี จึงคุกเข่าบนทางเท้าเพื่อให้ศีลให้พรโดยกล่าวว่า “เราเฉลิมฉลองศีลระลึกบนถนน เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งนิการากัว”
สหภาพยุโรปกล่าวว่าการดำเนินการของตำรวจนี้เป็นการกระทำโดยพลการและยังละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพทางศาสนาอีกด้วย
ความพยายามในการไกล่เกลี่ย
ศาสนจักรพยายามทำหน้าที่เป็นสื่อกลางโดยหาการเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤตที่เลวร้ายลงของนิการากัว ซึ่งเริ่มต้นด้วยการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างกว้างขวางในปี 2018 ซึ่งถูกบดขยี้
แดเนียล ออร์เตกา วัย 76 ปี ได้รับเลือกอีกครั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากที่ผู้สมัครฝ่ายค้านถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมและถูกจำคุก
ในเดือนมีนาคม รัฐบาลได้ประกาศเอกอัครทูต ณ ขณะนั้นแก่นิการากัว พระอัครสังฆราช Waldemar Stanisław Sommertag บุคคลห้าม และขับไล่เขา
นิการากัวจึงระลึกถึงเอกอัครราชทูตประจำนครวาติกัน
ฟังรายงานของเรา