สมาชิกของ European Parliament Disability Intergroup และ the Coalition for Mental Health and Wellbeing ในสัปดาห์นี้กล่าวถึงคณะกรรมการ Bioethics ของ สภายุโรป ด้วยข้อเรียกร้องใหม่ที่คณะกรรมการยึดมั่นในสิทธิมนุษยชนสากล
ที่อยู่ดังกล่าวระบุว่า "ตั้งแต่ปี 2014 คณะกรรมการนี้ได้ดำเนินการร่างโปรโตคอลเพิ่มเติมของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและชีวการแพทย์ (อนุสัญญาโอเบียโด) ที่ควบคุมการรักษาโดยไม่สมัครใจและการจัดตำแหน่งในจิตเวช งานนี้ยึดตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีซึ่งนำมาใช้เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว และสะท้อนถึงรูปแบบทางการแพทย์ที่ล้าสมัยของความทุพพลภาพ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประเทศส่วนใหญ่จำนวนมากได้ให้คำมั่นต่อรูปแบบความพิการด้านสิทธิมนุษยชน โดยยึดตามศักดิ์ศรีและความสมบูรณ์ของบุคคลผ่านการให้สัตยาบันอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
กระนั้น คนพิการโดยเฉพาะผู้ที่มีความบกพร่องทางจิตสังคมและสติปัญญายังคงตกเป็นเหยื่อของการบีบบังคับในจิตเวชและสถาบันต่างๆ เนื่องด้วยกฎหมายและนโยบายระดับชาติที่อนุญาตดังกล่าว สิทธิมนุษยชน การละเมิด การรักษาโดยไม่สมัครใจและการจัดตำแหน่งได้เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งมีการออกกฎหมายที่คล้ายคลึงกับร่างระเบียบการเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 นี่คือสาเหตุที่ องค์การอนามัยโลก กำลังส่งเสริม บริการสุขภาพจิตตามสิทธิ และสมัชชารัฐสภายุโรปเรียกร้องให้ การถอนร่างโปรโตคอล และการนำแนวทางที่ยึดหลักสิทธิมนุษยชนมาใช้
พวกเราสมาชิกรัฐสภายุโรปที่ลงนามข้างท้ายเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการนี้และคณะมนตรีของ ยุโรป โดยรวมแล้ว ต้องละเว้นจากการนำร่างโปรโตคอลเพิ่มเติมไปใช้กับอนุสัญญาโอเบียโด จุดประสงค์ของสภายุโรปในขั้นต้นคือเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย และหลักนิติธรรมในยุโรป
ในการทำเช่นนั้น จะต้องส่งเสริมมาตรฐานสิทธิมนุษยชนที่ทะเยอทะยานที่สุดและเคารพ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิคนพิการ ลงนามโดยรัฐสมาชิกของสภายุโรปทั้งหมดและให้สัตยาบันโดย 46 คน
ดังนั้นเราจึงเรียกร้องให้คุณลงคะแนนคัดค้านการนำโปรโตคอลมาใช้และเสนอการพัฒนาข้อเสนอแนะเพื่อส่งเสริมความพร้อมและการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตตามความยินยอมของบุคคลนั้นโดยเสรี”